ถ้าคุยเรื่องพื้นฐานการทำงานของโช้ค ก็ต้องคุยกันเรื่องค่าแดมป์ปิ้ง และรีบาวด์
ไม่ว่าจะเป็นโช้คปรับได้หลายๆระดับ Mono Tube Twin Tube หรือแบบมี Sub Tank
โช้ค Twin Tube แบบดั้งเดิม ที่เป็นท่อสองชั้น เพื่อบรรจุน้ำมันไฮโรลิก 2 ห้อง เพื่อแยกส่วนการทำงาน
โช้ค Mono Tube มีกระบอกสูบชั้นเดียว แต่มีชุดวาล์ว สองชุด ตัวหนึ่งต่อกับแกนโช้คเหมือนปกติ
อีกชุดหนึ่งเป็นตัวกั้นห้องน้ำมันและห้องแก็สไนโตรเจนด้านล่าง
Cr.ภาพ D Sport Mag
ส่วนโช้คแบบอื่นๆ ก็จะเพิ่มฟังก์ชั่นเสริมเข้ามา เช่น
โช้คที่มี Sub Tank เพื่อเพิ่มปริมาณแก๊สมากขึ้น มักเจอในกลุ่มรถแข่งแรลลี่ หรือครอสคันทรี่ ที่โช้คทำงานหนักๆ
โช้คแบบสตรัทปรับเกลียว ที่ช่วยปรับความสูงต่ำได้
หรือโช้คที่ปรับระดับความแข็งความหนืดได้
แต่การทำงานหลักจริงๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของ 2 ค่าข้างต้นนั้นครับ
เพราะโช้คต้องทำหน้าที่จำกัดควบคุมการเด้งดีดของชุดสปริงช่วงล่าง
ผู้ออกแบบโช้คอัพจะกำหนดค่าแดมป์ปิ้งและรีบาวด์ตามการคำนวณ หรือค่าจากการทดลองทดสอบในสภาวะการทำงานต่างๆของโช้ค
นั่นคือถ้าการใช้งานต่างลักษณะกัน ค่าแด้มป์ปิ้งและรีบาวด์ที่เหมาะสมก็ต่างกัน
เพราะฉนั้นการจะใช้โช้คอัพ รุ่นไหน ผู้ขับขี่ต้องคำนึงถึงการใช้งานของตัวเองเป็นหลัก
การที่จะได้ลองใส่กับรถเราเอง และได้ลองขับในสไตล์ของเราเอง จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทำได้ยาก…
เพราะการเปลี่ยนโช้คใหม่ ต้องจ่ายเงินเลย เราใส่แล้วถ้าไม่ชอบ ถอดคืนไม่ได้ T T
ซึ่งสนนราคาถูกแพง ก็ขึ้นกับแบบ Spec ยี่ห้อ รุ่น ที่เราจะเลือก
ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับ โช้คที่ออกแบบให้ค่าแดมป์ปิ้ง ค่ารีบาวด์ เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่ของเราหรือไม่ จะตรงกับความชอบของเราหรือไม่
ดังนั้นในการเลือกซื้อโช้คครั้งต่อไปเราจึงขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์นะครับ
ยิ่งเจ้าของรถสามรถบอกปัญหาในการใช้ปัจจุบันได้ละเอียดเท่าไหร่ บอกเล่าสไตล์การขับขี่ใช้งานได้ตรงเท่าไหร่
ก็จะทำให้ร้านหรือช่างเลือกชุดอุปกรณ์ที่เหมาะสม และการปรับแต่งได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น
เพื่อลดปัญหาการเสียเงินแล้ว ไม่ได้ตรงตามอย่างต้องการ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการขับขี่ ปลอดภัยทุกเส้นทางครับ